พระพิฆเนศนั่ง สมัยทวารวดี


... ...



เลขที่ : 0939
ประเภทพระเครื่อง : พระพุทธรูปบูชา
ชื่อพระเครื่อง : พระพิฆเนศนั่ง สมัยทวารวดี
สถานะ (ให้ชม/เช่าบูชา) :
ข้อมูลของพระเครื่อง : พระพิฆเนศนั่ง สมัยทวารวดี เนื้อสำริดเปียกทอง
พระพิฆเนศ Ganesha
พระคเณศ หรือ พระพิฆเนศ (Ganesh) เทพแห่งความสำเร็จ และเทพแห่งศาสตร์ศิลป์ พระองค์ทรงเป็นเทพเจ้าแห่งสากล (Universal God) ที่มีผู้เคารพนับถือมากที่สุดพระองค์หนึ่งทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าในอินเดีย เนปาล ภูฏาน ทิเบต มองโกล จีน ญี่ปุ่น เกาหลี พม่า ไทย เขมร อินโดนีเซีย ฯลฯ พระพิฆเนศ คือเทพเจ้าผู้ทรงมีพระปรีชาญาณเฉลียวฉลาด มีฤทธานุภาพมาก และทรงคุณธรรม คอยปราบภัยพาล อภิบาลคนดี อีกทั้งยังเป็นเทพผู้กตัญญูถึงพร้อมด้วยความดีงาม สมควรแก่การสักการบูชาเป็นอย่างยิ่ง หากใครจะประกอบพิธี หรือทำกิจกรรมใด โดยเฉพาะการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เช่น เปิดกิจการร้านค้า เริ่มการทำงาน ขึ้นบ้านใหม่ ออกเดินทาง หรือแม้กระทั่งการบวงสรวงทำพิธีมงคลต่างๆ ฯลฯ จะต้องบอกกล่าวบูชาองค์พระพิฆเนศก่อนเป็นลำดับแรก จึงจะเป็นสิริมงคลและประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งหวัง
โดยเฉพาะในประเทศอินเดียจะมีการจัดเทศกาลอันเกี่ยวเนื่องกับ พระพิฆเนศ ได้แก่ คเณศจตุรถี (Ganesh Chaturthi) ในวันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 10 มีการจัดพิธีบูชาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านั้นถึง 21 วัน ด้วยการสร้างเทวรูปด้วยดินปั้นระบายสี นำมาทำพิธีบูชาหน้าบ้านด้วยการชโลมมูลวัว โปรยด้วยทรายอ่อน ปิดทับด้วยใบไม้ โรยเมล็ดข้าว แล้วห่มผ้า ผูกด้ายศักดิ์สิทธิ์ ถวายเครื่องสังเวย และบูชาด้วยใบไม้วันละ 1 ชนิด โดยเมื่อครบ 21 วัน ซึ่งจะตรงกับวันคเณศจตุรถีพอดี เทวรูปทุกองค์จะได้รับการแห่แหนไปยังแม่น้ำหรือทะเลที่อยู่ใกล้ที่สุด แล้วนำไปถ่วงน้ำ ถือเป็นการถวายเทวรูปที่ได้รับการสักการบูชาตลอดทั้ง 21 วันแล้ว กลับไปยังองค์เทพ รวมทั้งมีการถือเคล็ดว่า ห้ามมองพระจันทร์ตลอดช่วงเวลานี้อีกด้วย
เทวลักษณะของพระพิฆเนศนั้น พระองค์ทรงมีพระเศียรเป็นช้าง งาหักข้างหนึ่ง พระกายอ้วนกลม หูยาน พระวรกายสีแดง สีขาว สีเหลือง ฯลฯ นุ่งห่มภูษาฉลองพระองค์แดงหรือเหลือง และประดับเครื่องถนิมพิมพาภรณ์อย่างงดงามอลังการ แต่ในยามที่จะทรงปรากฏพระองค์ในพิธีกรรมทางศาสนา หรือต่อหน้าเหล่าฤาษี โยคี จะทรงฉลองพระองค์อย่างนักบวช ขณะที่เทพศาสตราของพระองค์นั้นคือ อังกุศะ (Ankusha) หรือขอสับช้าง ซึ่งมีความหมายถึงการควบคุมและการทำลายสิ่งชั่วร้าย , ปาศะ (Pasha) หรือบ่วงบาศ ซึ่งหมายความถึงการผูกร้อยกิเลสตัณหาต่างๆ , ทันตะ (Danta) หรือก็คืองาที่หัก ซึ่งมีความหมายถึงการจารึกชะตากรรมแห่งสรรพสิ่ง สุดท้ายคือโมทกะ (Modaka) ซึ่งก็คือก้อนขนมหรือถ้วยขนม ซึ่งใช้หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ และทรงมีสัตว์มงคลประจำพระองค์คือ หนู ซึ่งได้รับประทานจากพระศิวะ นามว่า มุสิกะ
กล่าวไว้ในเทวปกรณ์ทั่วไปว่า พระพิฆเนศ ทรงเป็นพระโอรสของพระศิวะและพระศรีมหาอุมาเทวี (พระแม่อุมา) แต่พระองค์จะทรงมีความใกล้ชิดกับพระมารดาหรือก็คือพระอุมามากกว่า นอกจากนี้ยังทรงปรากฏพระองค์ร่วมกับพระลักษมี เรียกว่า ลักษมีคณปติ (Lakshmi Ganapati) โดยในการบูชาตามคติตรีเอกานุภาพนั้น มักมีการบูชาองค์พระพิฆเนศ ร่วมกับพระลักษมีและพระสรัสวดีด้วย ส่วนตามพุทธคติ พระพิฆเนศ ทรงมีพระนามว่า สิทธิธาดา (Siddhi Dhata) ทรงเป็นผู้ประทานความสำเร็จทางปัญญาตามความเชื่อในศาสนาพุทธนิกายมหายาน โดยมีบทสวดเฉพาะพระองค์ เรียกว่า คณปติหฤทัย (Ganapati Haridaya) ยิ่งไปกว่านั้นพระองค์ยังทรงได้รับการยกย่องให้เป็นผู้เขียนคัมภีร์มหาภารตะ จากวาจาของพระฤษีวยาส และนับถือกันว่า เป็นเทพเจ้าแห่งการรจนาหนังสือ ดุจเดียวกับ พระสุรัสวดี
พระลักษณะนิสัยของพระพิฆเนศ ทรงสงบเสงี่ยม โปรดการเสด็จโดยลำพัง มักไม่ถือโทษโกรธผู้ใด และเมื่อโกรธก็ทรงประทานอภัยง่าย สิ่งที่ไม่ทรงโปรดคือเสียงอึกทึกครึกโครม หากแต่โปรดศิลปะและดนตรีอันประณีต ทรงโปรดงานสังสรรค์ที่ถูกจัดเตรียมขึ้นด้วยความประณีตเช่นกัน อีกทั้งยังทรงโปรดผู้บูชาที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใด รวมทั้งผู้บูชาที่คาดหวังความสำเร็จอันพึงได้โดยไม่เบียดเบียนผู้อื่น และผู้บูชาที่เสียสละตนทำงานเพื่อประโยชน์ของสังคมคนหมู่มาก
พระพิฆเนศ ทรงเป็นเทพแห่งการเริ่มต้น อุปสรรค ความสำเร็จ สติปัญญา ไหวพริบ ความอุดมสมบูรณ์ ความสุข ทรงคือผู้เป็นใหญ่เหนือบรรดาภูตผีปีศาจทั้งหลาย และทรงเป็นผู้ขจัดอาถรรพ์อันเกิดจากคุณไสย มนต์ดำ อำนาจลี้ลับต่างๆ นอกจากนี้พระพิฆเนศ ยังทรงเป็นเทพพระองค์แรกสำหรับการบูชาในพิธีกรรมทั้งปวงอีกด้วย
เชื่อกันว่าพระพิฆเนศ จะทรงนำผู้บูชาข้ามพ้นอุปสรรคนานาที่ผ่านเข้ามา รวมไปถึงความขัดข้อง อีกทั้งความลำบากยากแค้น ทรงนำผู้บูชาไปสู่ความสำเร็จ ข้ามพ้นจากความทุกข์และความขาดแคลน ขัดสน ลำเค็ญ ไปสู่ความสุขและอุดมสมบูรณ์ พระองค์ทรงปกป้องผู้บูชาจากอำนาจลี้ลับและภูตผีปีศาจ ทรงช่วยขจัดอาถรรพ์ มนต์ดำ ทุกชนิด และภัยอันตรายซึ่งจะมาเยือนในทุกรูปแบบ พระองค์ทรงประทานความคิดแก่ผู้ที่จะทำงานใหญ่ให้ลุล่วงด้วยดี ทรงนำมาซึ่งโอกาสที่จะส่งเสริมสภาพความเป็นอยู่ให้ดียิ่งๆ ขึ้น ที่สำคัญที่สุด การประกอบพิธีกรรมใดก็ตาม หากมิได้อัญเชิญและบูชาพระองค์เสียก่อนแล้ว พิธีกรรมนั้นจักไม่สัมฤทธิ์ผลด้วยประการทั้งปวง
ชนพื้นเมืองของอินเดีย นอกจากจะมีลัทธิการบูชาสัตว์ หรือลัทธิแห่งชัยชนะเหนือธรรมชาติแล้ว ยังมีความเชื่อว่า หนู เป็นสัญลักษณ์ของความมืด ด้วยเหตุนี้พระพิฆเนศทรงขี่หนู จึงหมายถึงชัยชนะของแสงอาทิตย์ ที่ขจัดความมืดให้หมดสิ้นไป เป็นเทพเจ้าผู้ทรงขจัดอุปสรรคทั้งปวง เป็นเทพเจ้าแห่งความรอบรู้ ความฉลาด ความสำเร็จ เป็นเทพประจำเรือน ผู้ประทานความอุดมสมบูรณ์ และคุ้มครองป้องกันสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง จึงอาจกล่าวได้ว่า พระพิฆเนศเป็นเทพเจ้าแห่งจักรวาลก็ว่าได้
แต่เดิมพระพิฆเนศทรงเป็นเทพเจ้าองค์สำคัญในศาสนาฮินดู (พราหมณ์) หากแต่ความศรัทธาเชื่อถือเหล่านั้นได้ถูกเผยแพร่มาจนถึงแผ่นดินสยาม ตั้งแต่สมัยโบราณ อันปรากฏเป็นรูปประติมากรรมพระพิฆเนศ ณ โบราณสถานหลายแห่ง เช่น ที่เมืองนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ลพบุรี นครราชสีมา ฯลฯ พระพิฆเนศทรงกลายเป็นมหาเทพที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนไทยมากองค์หนึ่ง เหล่าผู้คนนับถือยกย่องให้ท่านเป็นประธานในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ เป็นสัญลักษณ์ประจำกรมศิลปากร, มหาวิทยาลัยศิลปากร, วิทยาลัยช่างศิลป และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ รวมทั้งในพิธีบวงสรวงเปิดกล้องถ่ายทำภาพยนตร์ พิธีไหว้ครูนาฏศิลป์ โขน ละคร พิธีไหว้ครูของควาญช้าง พิธีครอบครูเรียนสรรพวิชาต่างๆ ฯลฯ ก็จะต้องมีการกล่าวบูชาพระพิฆเนศเสียก่อน จึงจะเป็นสิริมงคล และทำกิจการงาน หรือเล่าเรียนได้สำเร็จ การอธิษฐานขอพรใดๆ ต่อองค์พระพิฆเนศที่ไม่เป็นการเกินวาสนาบารมีของตน ย่อมสำเร็จได้ทุกสิ่ง พระองค์จะทรงประทานพรให้สมปรารถนาเสมอ เช่น ขอพรด้านการศึกษาเล่าเรียน ขอปัญญาความรู้ ขอตำแหน่งหน้าที่การงาน ขอด้านการเงินและความรัก ด้านปัดเป่าอุปสรรคทุกข์ภัย และแก้ไขปัญหาต่างๆ ขอให้ทุกอย่างประสบผลสำเร็จ ซึ่งจะสำเร็จมากน้อยหรือไม่ประการใดนั้น ขึ้นอยู่กับบุญกุศลบารมีของแต่ละคน ที่ย่อมมีไม่เท่ากัน
(ที่มา : เทพพระเจ้า.com)








Copyright © 2019 Form Webmaster Amuletherritage.
กลับด้านบน